โพสต์ by ผีแดง แมนยู.
รีพอร์ต
อากาศในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ค่อนข้างร้อน และมีความชื้น ส่วนสภาพสนามดูเขียวชอุ่ม หลังจากที่ทีมงานดูแลสนามได้ทำหน้าที่ของพวกเขาเป็นอย่างดีในช่วงปิดฤดูกาล ถือเป็นเวทีฟาดแข้งที่สมบูรณ์แบบทีเดียว
นักเตะของทีมปีศาจแดงเดินลงสนาม โดยมี เวย์น รูนี่ย์ ลงเล่นเป็นตัวจริง แฟนบอลเจ้าถิ่นต่างตะโกนร้องเพลงเป็นชื่อเขา ดาวยิงชาวอังกฤษรายนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟนบอลมาก่อนแล้วในเกมแรกที่เปลี่ยนตัวลงมาเล่นเจอกับสวอนซี ซิตี้ เขามีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้ 2 ประตูในเกมดังกล่าว มาคราวนี้เขาได้เริ่มต้นเป็น 11 ตัวจริงเลย
รูนี่ย์ลงเล่นในบทบาทกองกลางกึ่งกองหน้าที่ยืนอยู่หลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โดยมี ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ ไมเคิล คาร์ริค ยืนลึกลงไป ด้านข้างมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย ยืนด้านขวา และ แดนนี่ เวลเบ็ค ประจำการทางฝั่งซ้าย เดวิด มอยส์ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ต่างพร้อมบัญชาเกม และกระตุ้นลูกทีมกันที่พื้นที่เทคนิคข้างสนาม
จังหวะลุ้นยิงครั้งแรกของเกมเป็นทางฝั่งเชลซีในนาทีที่ 9 เควิน เดอ บรุย์น ครอสบอลเข้ามา ริโอ เฟอร์ดินานด์ บล็อคออกมาได้ แต่มาเข้าทาง ออสก้าร์ ยิงได้ตรงตัว ดาบิด เด เคอา ทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ลูกเตะมุมแรกของเกม เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช สกัดลูกชิ่งหนึ่งสองระหว่างฟาน เพอร์ซี่ และเวลเบ็คออกหลังไป แต่ จอห์น เทอร์รี่ ก็โขกสกัดลูกนี้เอาไว้ได้
นาทีที่ 12 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะได้ลูกจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของทีมเยือน เมื่อ ฟิล โจนส์ ครอสบอลไปติดแขน แอชลี่ย์ โคล แต่กรรมการ มาร์ติน แอตกินสัน ก็โบกมือให้เล่นต่อไป จากนั้นโคลก็มาถูกแฟนๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด โห่อีกครั้งเมื่อเขาจงใจทำฟาวล์ ฟาน เพอร์ซี่ ในจังหวะสวนกลับ
ดาวยิงดัตช์ของทีมปีศาจแดงทำผลงานได้ดี และดูคล่องแคล่วมากๆ ในค่ำคืนนี้ เขาได้โอกาสลากบอลผ่านอิวาโนวิชก่อนยิงเข้าข้างตาข่าย จากนั้นก็มาโหม่งข้ามคานจากลูกโยนเข้ามาของ ปาทริซ เอฟร่า ถึงตรงนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเล่นได้ดี ทำให้เชลซีต้องเล่นกันด้วยความกดดัน
นาทีที่ 28 รูนี่ย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางในเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้จังหวะผ่านบอลอย่างรวดเร็วเข้ากลาง แต่ผู้เล่นเชลซีก็เข้ามาบล็อคเอาไว้ได้ก่อน เดอ บรุย์น ของเชลซีมาโดนใบเหลืองไปเป็นคนแรก เมื่อเขาไปเข้าปะทะใส่ ฟาน เพอร์ซี่ ล้มลงแถวริมเส้นฝั่งซ้าย
เจ้าถิ่นยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นักเตะเชลซี 9 คนต้องถอยไปยืนกันหลังบอล โดยทิ้ง อังเดร ชูร์เล่ ยืนค้ำหน้าไว้คนเดียว ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ได้จังหวะยิงด้วยซ้ายข้ามคานออกไป แถมอีกไม่นาน คาร์ริคจ่ายบอลขึ้นหน้าไปให้กับรูนี่ย์ เขาพยายามมองหาช่องแทงต่อไปให้กับ ฟาน เพอร์ซี่ แต่ระยะก็ห่างเกินไป ทำให้ ปีเตอร์ เช็ค พุ่งออกมารับบอลเอาไว้ได้ ก่อนจบครึ่งแรกทีมเยือนมาได้ลุ้นทิ้งท้ายจากออสการ์ที่ยิงจากระยะ 18 หลาไปตรงตัว เด เคอา
กลับมาเล่นกันต่อยังเป็นทีมปีศาจแดงที่ได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ แต่เป็นเชลซีที่มาได้ลุ้นยิงก่อนจากระยะ 20 เอด็อง อาซาร์ ยิงเลียดไปเข้าซอง เด เคอา แบบสบายๆ ก่อนที่ต่อมาจะเป็นเวลเบ็คที่ได้ยิงข้ามคาน 2 ครั้งติด ครั้งแรกจากระยะ 25 หลา เขาปั่นโค้งลอยโด่งออกไป จากนั้นก็เป็นจังหวะที่รูนี่ย์จ่ายทะลุเข้ากรอบเขตโทษ เวลเบ็ควิ่งเข้ามาซัดข้ามคานไปอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างผิดหวังกับโอกาสในครั้งนี้
นาทีที่ 58 แกรี่ เคฮิลล์ ของเชลซีได้ยิงบ้างจากระยะ 30 หลา แต่ เด เคอา ก็ยังทำหน้าที่ของเขาได้เป็นอย่างดี จากนั้นชูร์เล่ก็มายิงข้ามคานออกไปอีกคน แต่จังหวะนี้ก็ถูกยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว มูรินโญ่เปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนแรกเมื่อเกมผ่านมาครบชั่วโมง เป็น เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่ได้ลงมาเล่นแทน เดอ บรุย์น
รูนี่ย์มาได้โอกาสลุ้นจากระยะ 30 หลาแต่เช็คก็เซฟไว้ได้ ก่อนที่มอยส์จะเปลี่ยนตัวบ้าง เป็นทางด้าน แอชลี่ย์ ยัง ที่ได้ลงมาเล่นแทนวาเลนเซีย
แอชลี่ย์ โคล มาทำตัวให้ตกเป็นเป้าโจมตีอีกครั้ง เมื่อเขาพุ่งล้มหลังจากเบียดไหล่ต่อไหล่กับ ฟิล โจนส์ ในกรอบเขตโทษ หลังจากนั้น ยัง ก็ได้ครอสบอลสวยๆ 2 ครั้ง แต่ก็ถูกแนวรับเชลซีเคลียร์ออกมาได้หมด
นาทีที่ 77 ตอร์เรสได้โขกจากระยะไกลไปเข้ามือ เด เคอา แบบไม่น่าหวาดเสียว ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของรูนี่ย์ที่บังคับให้เช็คต้องโชว์ฟอร์มเซฟพุ่งปัดออกหลังไป จากนั้นทีมปีศาจแดงก็เปลี่ยนเอา ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาเล่นแทนเวลเบ็ค
ตอร์เรสกลายเป็นนักเตะคนที่ 2 ของเชลซีที่โดนใบเหลืองไปในเกมนี้ เมื่อไปทำฟาวล์ใส่เคลฟเวอร์ลี่ย์ และทีมเยือนก็มาเปลี่ยนตัวอีกคน โดยเอา จอห์น โอบี มิเกล ลงมาแพ็คเกมในแดนกลางแทนชูร์เล่
ก่อนจบเกม เทอร์รี่มาโขกสกัดลูกครอสอันตรายจากเจ้าถิ่นทางฝั่งขวา และในจังหวะเก็บตก เอฟร่าก็วอลเล่ย์หลุดกรอบออกไป เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มูรินโญ่ส่ง เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า ลงมาเล่นแทนอาซาร์ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก จบเกมจึงเสมอกันไป 0-0
สถิติ